LGBTQ+ เพศทางเลือก...เพราะความรักเลือกได้
เราจะเห็นได้ว่าสังคมไทยนั้นค่อนข้างเปิดกว้างมากขึ้นสำหรับเรื่องของ LGBTQ+ หรือที่เรียกอีกอย่างได้ว่า กลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศ แต่อย่างไรก็ตามสังคมไทยก็ยังไม่เปิดรับมากเท่ากับต่างประเทศ แล้วเราจะทำอย่างไร หากเราเริ่มรู้สึกว่าความรักของเราไม่ได้เป็นความรักแบบคู่ชายหญิงอีกต่อไป และสังคมไทยยังไม่ค่อยเปิดใจกับเรื่องนี้
อย่างแรกเลย เราลองถามตัวเองดูก่อนดีกว่าว่าสิ่งที่เรารู้สึกอยู่นั้น เป็นความรู้สึกจริง ๆ ของเรา หรือเป็นความสับสนทางเพศในช่วงวัยรุ่นกันแน่ โดยปกติแล้วเมื่อเริ่มเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น เรามักจะมีความสับสนในหลาย ๆ เรื่องเกิดขึ้น รวมถึงความสับสนทางเพศด้วย ดังนั้นเราจึงควรวิเคราะห์ตัวเองให้แน่ใจก่อนว่าความรู้สึกนั้นคือตัวเราจริง ๆ หรือเปล่า? เราเป็นอย่างนั้นจริง ๆ หรือไม่? ซึ่งมันอาจจะใช้เวลานานพอสมควร แต่นั่นก็ไม่ได้นานเกินรอสำหรับการค้นหาตัวตนที่แท้จริงของเรา
การยอมรับตัวเอง เป็นสิ่งสำคัญที่เราควรจะทำให้ได้ก่อนที่จะไปกังวลเรื่องอื่น อย่ามัวแต่กลัวนั่นกลัวนี่ กลัวคนอื่นรังเกียจ กลัวคนอื่นรับไม่ได้ ถ้าเรายังกลัวแบบนี้อยู่ ก็ให้ย้อนกลับมาถามตัวเองก่อนว่า " แล้วเราล่ะ ยอมรับตัวเองได้หรือยัง? " ถ้าคำตอบคือ ไม่ ก็คงจะไม่มีใครยอมรับเราได้แล้วล่ะ เพราะในเมื่อตัวเราเองยังยอมรับตัวเองไม่ได้ แล้วจะทำให้คนอื่นยอมรับในตัวเราได้ยังไงกัน? เพราะฉะนั้นหากเราอยากที่จะเป็นตัวของตัวเองอย่างมีความสุข โดยไม่ต้องปิดบังใครให้รู้สึกอึดอัด สิ่งแรกที่ควรทำให้ได้ก็คือ การยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็น
ถ้าหากเรายอมรับตัวเองได้แล้ว จะทำยังไงให้คนอื่นยอมรับเราได้บ้าง? แน่นอนว่าหลายๆคนก็คงจะกังวลเรื่องนี้กันอยู่ไม่น้อย ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องยากที่จะทำสำหรับบางคน แต่ก็ใช่ว่าจะทำไม่ได้
การบอกไปตรง ๆ ดูจะเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด
ขอแค่กล้าที่จะพูดออกมาตรง ๆ กล้าที่จะบอกกับคนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็น เพื่อน พ่อแม่
พี่น้อง ญาติ หรือ คนรู้จัก ซึ่งแน่นอนว่าเราก็ต้องเตรียมใจยอมรับผลที่จะตามมาด้วย
เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะยอมรับเราได้ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าไม่มีดังนั้น จึงอย่าได้กลัวที่จะพูด
เพราะ ถ้าเราไม่พูด เราก็จะเปลี่ยนอะไรไม่ได้
การพิสูจน์ตัวเอง เป็นวิธีที่ควรทำเมื่อบอกไปแล้ว แต่เขารับไม่ได้
โดยเฉพาะกับ พ่อแม่ของเรา การพิสูจน์ตัวเองนั้นดูจะเป็นเรื่องยาก
แต่หากเรามีความมุ่งมั่นแล้ว มันก็คงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
ส่วนสิ่งที่จะทำเพื่อพิสูจน์นั้น
ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแต่ละคนว่าทำอย่างไรพ่อแม่จึงจะรับเราได้
ทำในสิ่งที่แสดงให้พ่อกับแม่เห็นว่า ถึงแม้เราจะเป็นแบบนี้แต่เราก็ไม่ได้แย่ไปกว่าใครเลย
แม้อาจจะใช้เวลานานแต่ก็คุ้มค่ากับการที่พ่อแม่รับเราได้ในสักวันหนึ่ง
สุดท้ายนี้ก็อยากขอเป็นกำลังใจให้คนที่กำลังอยากจะเปิดเผยตัวเองต่อภายนอก ขอให้ผลเป็นไปตามที่คาดหวังเอาไว้ แต่อยากให้จำไว้ว่า ไม่ใช่ทุกคนที่จะยอมรับเรา เพราะฉะนั้น ถ้าเปลี่ยนที่เขาไม่ได้ ก็ขอให้เปลี่ยนที่ตัวเราเอง
อย่าได้แคร์คนที่รังเกียจเรา มันจะทำให้เก็บเอาไปเครียดเปล่าๆ ควรใส่ใจคนที่เขาเข้าใจเรา คนที่เขารักเรา
จะดีกว่า และให้คิดไว้เสมอว่า ที่เราเป็นแบบนี้ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนหากเรายังทำตัวดีอยู่
ซึ่งเราก็เป็นคนที่มีสิทธิเสรีภาพเหมือนกับคนทั่วไปๆ
มีสิทธิ์ที่จะได้รับความเท่าเทียมเหมือนคนอื่นๆ
และอยากให้คิดว่าสิ่งที่เราเป็นไม่ใช่โรคหรือกรรมใดๆทั้งสิ้น
แต่มันคือสิ่งที่เราเลือกจะเป็น สิ่งที่เป็นตัวเรา เพราะความรักของเรา...เราเลือกมันได้
บทความนี้เป็นบทความที่ Big P. เคยเขียนลงนิตยสารสภาของโรงเรียนเมื่อปีที่แล้วค่ะ
เป็นบทความที่ยกเอาสิ่งที่ได้เห็นรอบตัว
รวมถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองมาเล่าในมุมมองความคิดของตัว Big P. เองค่ะ
หากผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยนะคะ หากมีข้อติชมใด ๆ ก็สามารถแสดงความคิดเห็นได้ค่ะ
อาจจะยังเขียนไม่เก่งสักเท่าไร แต่ก็พยายามจะฝึกฝน และพัฒนาทักษะการเขียนต่อไปค่ะ
ยังมีอีกหลายบทความที่ Big P. เคยเขียน เดี๋ยวจะค่อย ๆ
ทยอยเอามาลงบล็อกให้ได้อ่านกันนะคะ ขอบคุณที่ติดตามค่ะ
เป็นบทความที่ดีมากๆเลยค่ะ อยากให้ทุกคนได้อ่านและลองคิดตามดู เราจะได้รู้และเปิดรับตัวเราเอง
ตอบลบขอบคุณค่าาา
ลบ